ซินเจนทา ประเทศไทย เปิดศูนย์เซนทริโก (CENTRIGO) ระบบนิเวศเกษตรกรรม

กิจกรรมบริษัท
ผู้บริหารซินเจนทาและทีมงานเซนทริโกถ่ายภาพร่วมกัน

ซินเจนทา ประเทศไทย เปิดศูนย์เซนทริโก (CENTRIGO) ระบบนิเวศเกษตรกรรม
เสนอโซลูชั่นการเกษตรแบบครบวงจร
พร้อมขับเคลื่อนภาคเกษตรด้วยเทคโนโลยีการทำเกษตรสมัยใหม่

ซินเจนทา ประเทศไทย เปิดศูนย์เซนทริโก (CENTRIGO) ให้เกษตรกรเป็นศูนย์กลางทางเกษตรกรรม พร้อมนำเสนอโซลูชันแบบ end-to-end รวบรวมพันธมิตรชั้นนำจากอุตสาหกรรมต่างๆในประเทศไทยมาช่วยให้ความรู้กับเกษตรกรตั้งแต่การเพาะปลูกไปจนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อให้เกษตรกรสามารถเอาชนะปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในการเพิ่มผลผลิตและทำกำไรได้สูงขึ้น ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคท้องถิ่นและการส่งออกของประเทศได้  โดยเครือข่ายความรู้และบริการของเซนทริโกจะช่วยให้เกษตรกรไทยเข้าถึงโซลูชันทางการเกษตร เทคโนโลยี และวิธีทำการเกษตรแบบยั่งยืน สามารถเป็นผู้ประกอบการที่เป็นผู้นำด้านการเกษตรสมัยใหม่ในประเทศไทย ซึ่งศูนย์เซนทริโก จะทำการจัดหาปัจจัยการผลิตป้องกันศัตรูพืช การใช้โดรน และเทคโนโลยีทางการเกษตรที่หลากหลาย ให้ความรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ และผ่านทางศูนย์เซนทริโกโดยตรง พร้อมเปิดให้บริการแก่เกษตรกรไทยแห่งแรก ที่ตำบลหัวเรือ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ในวันที่ 23 เมษายน 2567

จากซ้าย-นายสิทธิพล เลาหะวนิช, นายอเล็คซานเดอร์ เบอร์คอฟสกี้, นางสาวกล้วยไม้ นุชนิยม

นายอเล็คซานเดอร์ เบอร์คอฟสกี้ - ผู้อำนวยการบริหารภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ซินเจนทา กรุ๊ป กล่าวว่า “เซนทริโก จะช่วยแก้ปัญหาสำคัญของเกษตรกรแบบครบวงจร ด้วยการนำเสนอโซลูชันทางการเกษตรแบบองค์รวม เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มุ่งมั่นในการให้คำแนะนำแก่กลุ่มเกษตรกรตลอดกระบวนการเพาะปลูก เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตและกำไรให้มากขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและวิธีการเกษตรแบบยั่งยืน เรามุ่งหวังที่จะยกระดับรายได้ของเกษตรกร สนับสนุนการพัฒนาของกลุ่มอุตสาหกรรมและสร้างความมั่นคงในด้านอาหาร โดยซินเจนได้ร่วมกับพันธมิตรผู้รับซื้อและส่งออกพริกของจังหวัดอุบลราชธานี และพันธมิตรอื่นๆ เพื่อช่วยให้พี่น้องเกษตกรในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะการปลูกพริกของที่นี่ส่วนใหญ่จะถูกส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์และบริการของเราไม่เพียงแค่เป็นทรัพย์สินที่มีคุณค่าต่อเกษตรกรผู้เพาะปลูกหรือชุมชนในจังหวัดอุบลราชธานี และประเทศไทย แต่ยังมีความสำคัญในการแก้ปัญหาที่ท้าทายระดับโลกอีกด้วย”

“นอกจากนี้เราจะขยายขอบเขตการเข้าถึงภาคเกษตรกรรมต่างๆ โดยให้การสนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้โดรนเพื่อการเกษตร ซึ่งสาขาอุบลราชธานีแห่งใหม่นี้จะมีทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์คอยทุ่มเทให้การสนับสนุนความรู้ด้านพืชไร่ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีและการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม เซนทริโกจะเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของซินเจนทาเพื่อการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืน การเพิ่มขีดความสามารถของเกษตรกร รวมถึงการพัฒนาชุมชน ให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางการเกษตรอย่างแท้จริง” นายอเล็คซานเดอร์ กล่าวเสริม

นางสาวกล้วยไม้ นุชนิยม กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย  บริษัท ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น จำกัด กล่าวว่า “เราเลือกจังหวัดอุบลราชธานีเป็นที่ตั้งศูนย์ฯ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในการปลูกพืชเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในประเทศไทย ซึ่งต่อจากนี้ซินเจนทาพร้อมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ เตรียมพร้อมผนึกกำลังเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายทางการเกษตร โดยให้การสนับสนุนแก่เกษตรกรในท้องถิ่นในเรื่องของการใช้โดรน และเทคโนโลยีทางเกษตรสมัยใหม่”

“ด้วยการสนับสนุนจากเซนทริโก เกษตรกรไทยสามารถพัฒนาศักยภาพในการผลิตอาหารที่มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาดและผู้บริโภค สร้างความมั่นคงด้านอาหารของประเทศไทยให้เข้มแข็งได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ด้วยเครือข่ายความรู้และบริการที่พร้อมใช้งาน เรามั่นใจว่าเกษตรกรในระบบเซนทริโก จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและยกระดับภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย” นางสาวกล้วยไม้ กล่าวเสริม

ผู้บริหารซินเจนทาพร้อมทีมงานเซนทริโกและพี่น้องกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ถ่ายภาพร่วมกัน

นายสิทธิพล เลาหะวนิช เจ้าของธุรกิจโรงคัดแยกพริกนายน้อย หัวเรือ เครือข่ายเกษตรผู้ปลูกและผู้รับซื้อ ส่งออกพริกรายใหญ่ของพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า “พริกบ้านหัวเรือของเราเป็นที่นิยมอย่างมาก นอกจากจะส่งขายไปทั่วประเทศแล้วยังส่งออกไปต่างประเทศด้วย โดยพริกหัวเรือส่งออกทุกวันประมาณวันละ 10 ตัน หรือ 10,000 กิโลกรัม เราจึงมีเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกพริกในตำบลหัวเรือนี้จำนวนมากกว่า 3,000 ไร่ สามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกร ชาวบ้านในชุมชน เพราะปลูกครั้งเดียวแต่เก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่การปลูกพริกให้ได้ผลผลิตดี มีคุณภาพ เราต้องมีความรู้ความเข้าใจในการปลูกรวมถึงการดูแลพริกให้มีขนาดใหญ่ สีสด มีความเผ็ดหอม เพื่อให้พริกได้ราคาดี เป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งซินเจนทาได้มาเปิดศูนย์เซนทริโกที่นี่นับว่าเป็นโอกาสที่ดีในการให้พี่น้องเกษตรกรและชุมชนได้รับความรู้ที่หลากหลายทางการเกษตร ทั้งเรื่องการใช้โดรน การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อเข้ามาช่วยในการเพิ่มผลผลิตและกำไรให้กับกลุ่มพี่น้องเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน"

โดยในเอเชีย ซินเจนทาได้เปิดดำเนินการศูนย์เซนทริโกแล้วในบังคลาเทศ อินโดนีเซีย อินเดีย และปากีสถาน ซึ่งปัจจุบันนี้ เกษตรกรไทยสามารถใช้บริการที่ศูนย์ฯได้โดยตรง หรือเข้าถึงคำแนะนำในการเกษตรผ่านแอปพลิเคชัน Cropwise ของซินเจนทา ซึ่งจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและการช่วยเหลือต่างๆ เช่นกัน